สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับ ประโยชน์ของสับปะรด ผลไม้รสชาติเปรี้ยวหวานที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ ไปดูกันเลยดีกว่าว่า เจ้าสับปะรดนี้ จะมีประโยชน์อะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
สับปะรด
สับปะรด มีชื่อสามัญว่า Pineapple มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ananas comosus (L.) Merr. จัดอยู่ในวงศ์สับปะรด (BROMELIACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อย BROMELIOIDEAE และมีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มะนัด มะขะนัด บ่อนัด (ภาคเหนือ) บักนัด (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ย่านัด ขนุนทอง (ภาคใต้) เป็นต้น
สับปะรด เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 90 – 100 ซม. มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับ ซ้อนกันถี่มากรอบต้น กว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกช่อออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนมาก ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีใบเป็นกระจุกที่ปลาย ซึ่งในประเทศไทยมีพันธุ์ที่นิยมปลูกหลากหลายสายพันธุ์ อาทิเช่น พันธุ์ปัตตาเวีย (สับปะรดศรีราชา ผลใหญ่ เนื้อฉ่ำ สีเหลืองอ่อน), พันธุ์อินทรชิต (หรือพันธุ์พื้นเมือง), พันธุ์ภูเก็ต (ผลเล็กเปลือกหนา เนื้อสีเหลือง หวานกรอบ), พันธุ์นางแล (พันธุ์น้ำผึ้ง เนื้อจะเข้มเหลือง รสออกหวานจัด) เป็นต้น

คุณค่าทางโภชนาการของสับปะรด
คุณค่าทางโภชนาการของสับปะรดต่อ 100 กรัม และคำนวณร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ ดังนี้
- พลังงาน 50 กิโลแคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 13.12 กรัม
- น้ำตาล 9.85 กรัม
- เส้นใย 1.4 กรัม
- ไขมัน 0.12 กรัม
- โปรตีน 0.54 กรัม
- วิตามินบี 1 0.079 มิลลิกรัม 7%
- วิตามินบี 2 0.032 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินบี 5 0.213 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 6 0.112 มิลลิกรัม 9%
- วิตามินบี 9 18 ไมโครกรัม 5%
- โคลีน 5.5 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินซี 47.8 มิลลิกรัม 58%
- ธาตุแคลเซียม 13 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุเหล็ก 0.29 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
- ธาตุแมงกานีส 0.927 มิลลิกรัม 44%
- ธาตุฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุโพแทสเซียม 109 มิลลิกรัม 2%
- ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
- ธาตุสังกะสี 0.12 มิลลิกรัม 1%

ประโยชน์ของสับปะรด
สรรพคุณ และ ประโยชน์ของสับปะรด ดังนี้
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความแก่ชรา
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
- ช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีมากขึ้น
- ช่วยบรรเทาอาการร้อน กระสับกระส่าย หิวน้ำ
- ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีน
- ช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัดได้
- ช่วยแก้อาการท้องผูก ขับถ่ายไม่สะดวก
- ช่วยในการขับปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก
- ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือก
- ช่วยลดเสมหะในลำคอได้
- ช่วยรักษาโรคนิ่ว
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
- ช่วยรักษาอาการบวมน้ำ
- ใบสด นำมาใช้เป็นยาถ่ายหรือยาฆ่าพยาธิได้
- รากสับปะรดนำมาใช้เป็นยาแก้กระษัย บำรุงไตได้
- ผลดิบสับปะรดช่วยขับประจำเดือน
- ช่วยลดการอักเสบจากบาดแผล
- ช่วยรักษาอาการแผลเป็นหนอง
- ช่วยแก้ปัญหาส้นเท้าแตก
- ช่วยรักษาโรคไตอักเสบ
- เป็นยารักษาโรคผิวหนัง
- หนามของสับปะรดช่วยแก้พิษฝีต่าง ๆ ได้
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรรับประทานขณะท้องว่าง เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- ไม่ควรรับประทานสับปะรดดิบ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาถ่ายอย่างแรง
- สับปะรดอาจจะทำให้เกิดอาการแสบลิ้นได้ ควรนำสับปะรดไปแช่ในน้ำเกลือก่อน 2 – 3 นาที เพื่อลดการเกิดปฏิกิริยากับอวัยวะในปาก
เป็นอย่างไรบ้างคะกับ ประโยชน์ของสับปะรด ที่เรานำมาฝาก อย่างไรก็ตามนะคะ การทานสับปะรดให้ได้คุณค่าทางโชนาการ ควรทานสด ๆ ไม่ผ่านกระบวนการประกอบอาหารหรือผ่านความร้อน เพื่อป้องกันการสูญเสียวิตามินค่ะ ส่วนสับปะรดที่เริ่มนิ่ม และมีน้ำเหนียว ๆ ไหลออกมา แสดงว่าเริ่มเน่าหรือสุกมากจนเกินไป แบบนี้ไม่ควรทานนะคะเพื่อน ๆ
สำหรับสาว ๆ หนุ่ม ๆ ที่ชอบซื้อเครื่องสำอางเป็นชีวิตจิตใจ เรามีบทความ แชร์ 5 วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง อย่างไรให้ปลอดภัย ที่จะช่วยให้เราสามารถเลือกซื้อ เครื่องสำอาง ที่ดี มีคุณภาพ เหมาะสมกับราคา แถมปลอดภัย จากส่วนผสมอันตรายที่ปะปนมากับเครื่องสำอางอีกด้วยค่ะ
และคอหวยลาว เรามีบทความ วิธีคำนวณหวยลาว 3 ตัว และ 4 ตัวตรง แม่นยำที่สุด ที่จะมาบอกต่อ วิธีคำนวณหวย เก็งหวยอย่างไรให้ถูกรางวัลกันค่ะ