เครื่องสำอางเป็นสิ่งประทินผิว ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน ทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่เฉพาะแค่ผู้หญิง ผู้ชายเองก็ใช้ในการปกปิด และแต่งเติมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง และในปัจจุบันนี้ การเติบโตของตลาดcosmetic เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เราเห็นเครื่องสำอาง ที่วางขายตามท้องตลาดเต็มไปหมด แต่การที่เราจะซื้อมาใช้ได้ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยกันหน่อย ฉะนั้น วันนี้เราจึงจะมา แชร์ 5 วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง อย่างไรให้ปลอดภัย ถ้าพร้อมและไปติดตามกันเลย รู้หรือไม่ นางเอกมาแรงแห่งปี ก็ใช้วิธีแบบนี้เหมือนกัน
แชร์ 5 วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง อย่างไรให้ปลอดภัย

1.ได้เครื่องหมายรับรองจากอย.
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือที่รู้จักกันว่า อย. เป็นหน่วยงานที่ดูแลและรับผิดชอบเกี่ยวกับcosmetic โดยตรง ซึ่งcosmetic ที่จะวางขายได้อย่างถูกต้อง จะต้องได้รับเครื่องหมายจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรืออย.ก่อนเสมอ แต่ถ้าหากcosmetic ชิ้นนั้น ไม่มีเครื่องหมายนี้ ให้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นของเถื่อน และห้ามซื้อโดยเด็ดขาด เพราะถึงแม้จะมีราคาถูก ดูสวยงามเหมือนของจริง แต่ถ้าใช้ระยะยาวก็อาจจะส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายได้

2.ดูวันหมดอายุก่อนเสมอ
เครื่องสำอางแต่ละชนิดจะมีอายุการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น พวกครีมรองพื้น จะมีอายุการใช้งานหลังการเปิดอยู่ที่ 6เดือน – 1ปี ส่วนลิปสติก จะนานกว่าอยู่ที่ 2-3 ปี และมาสคาร่า อายไลเนอร์จะอยู่ที่ 3-6เดือน โดยประมาณ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตของแต่ละบริษัทด้วย ฉะนั้น สิ่งที่เราอยากจะแนะนำ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้เครื่องสำอางที่ปลอดภัย ก็คือการดูวันหมดอายุก่อนซื้อใช้เสมอ เพื่อทราบถึงอายุการใช้งานของเครื่องสำอางชิ้นนั้น และหลังจากนั้นก็ดูที่ส่วนผสมด้วยเพราะอาจจะมีสารที่ร่างกาเราแพ้ก็ได้ โดยแนะนำให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ บริษัทผู้นำเข้า เผื่อในกรณีที่มีปัญหา หรือได้รับอันตรายจากการใช้ จะได้โทรไปสอบถามหรือร้องเรียนได้ถูกต้อง

3.ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ก่อนซื้อ
ก่อนจะซื้อเครื่องสำอางทุกครั้ง ควรที่จะตรวจสอบภาชนะที่บรรจุอยู่เสมอ ต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่มีฉีกขาดหรือชำรุดเพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า cosmetic ชิ้นนั้น จะมีสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคเข้าไปข้างในมากน้อยแค่ไหน แม้ว่าจะเป็นcosmetic แบรนด์ดังก็ตาม เพราะถ้าเราตามข่าว จะเห็นว่ามีคที่ติดเชื้อจากการใช้เครื่องสำอาง ที่มีการเจือปนของเชื้อโรค ซึ่งมาจากบรรจุภัณฑ์ที่เสียหายในระหว่างการขนส่ง กว่าจะรู้ตัวก็ติดเชื้อในกระแสเลือดไปเสียแล้ว ดังนั้น ทุกครั้งที่จะซื้ออย่าลืมเช็กสภาพให้ดีเสียก่อน

4.อย่ามองข้ามคำเตือนบนฉลาก
กว่าที่cosmetic ชนิดหนึ่งจะสามารถวางขายได้ ก็ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ที่ถูกควบคุมโดยสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรืออย. เว้นแต่cosmeticชนิดนั้น จะไม่ถูกกฎหมาย ดังนั้น การที่ผู้ค้าจะผ่านด่านแรกของการวางขายได้ พวกเขาก็ต้องมีสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน แต่ถึงแม้จะมีอย. มั่นใจได้ว่าปลอดภัยแล้ว ก็ไม่ควรมองข้ามคำเตือนบนฉลากโดยเด็ดขาด เพราะcosmetic บางประเภท มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย หากผู้บริโภคใช้ไม่ถูกวิธี

5.ทดสอบก่อนตัดสินใจซื้อ
วิธีสุดท้ายคือการทดสอบก่อนซื้อ จะช่วยทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า นอกจากจะทำให้คุณเห็นว่าcosmetic ชิ้นนั้นเหมาะกับคุณมากแค่ไหนแล้ว ยังเป็นการทดสอบว่าคุณแพ้cosmetic ชิ้นนั้นด้วยหรือไม่ โดยการทดสอบสามารถทำได้ด้วยการอ่านส่วนผสมที่ฉลากก่อน หรือถ้าตัวคุณเองก็ยังไม่มั่นใจว่าแพ้สารตัวไหน ก็สามารถทำการทดสอบกับผิวหนังในส่วนอื่นได้ นั่นก็คือบริเวณผิวเนื้ออ่อน ๆ อย่างท้องแขน อย่างน้อยที่สุดเป็นเวลา 20 – 30 นาที เพราะถ้าหากเกิดอาการแพ้ ผิวหนังในบริเวณนั้นก็จะแสดงอาการ ซึ่งบางรายก็อาจจะเกิดเป็นรอยแดง ผื่น หรือรู้สึกระคายเคืองได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรซื้อหรือไม่
และนี้ก็คือ แชร์ 5 วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอาง อย่างไรให้ปลอดภัย เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อ ถ้าหากนำทั้ง 5 เทคนิคเหล่านี้ ไปปรับใช้เพียงเท่านี้ สาว ๆ ก็จะได้เครื่องสำอางที่ปลอดภัย มั่นใจได้ว่าห่างไกลจากโรคมะเร็งผิวหนังได้แน่ ๆ แต่ถ้าหากใครใช้แล้ว รู้สึกระคายเคือง หรือมีอาการแพ้ที่รุนแรง ก็ไม่ควรปล่อยไว้เด็ดขาดนะคะ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเลย
แนะนำเรื่องใกล้เคียง : 10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงทุนในช่วงอายุยังน้อย มาแนะนำ ให้กับคนที่กำลังอยากจะลงทุนในช่วงนี้ และคงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้คุณได้มากขึ้นด้วย